การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

SDGs

เป้าหมายที่ 7:
พลังงานสมัยใหม่ที่ยั่งยืนทุกคนสามารถเข้าถึงได้
เป้าหมายที่ 12:
แผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน
เป้าหมายที่ 13:
การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เป้าหมายที่ 14:
การใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล
เป้าหมายที่ 15:
การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบก

เป้าหมายและผลการดำเนินงานที่สำคัญ

เป้าหมายระยะยาว

  • 1 ภายในปี 2573 ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1 และ Scope 2 ต่อรายได้รวมลดลง 20% จากปีฐาน (ปีฐาน 2565)
  • 2 ภายในปี 2593 ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

กลยุทธ์

เพิ่มพลังงานงานทดแทน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงกระบวนการและอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ

เพิ่มพื้นที่สีเขียว
+36,000
ตร.ม.
35.17%
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1 และ Scope 2 ต่อรายได้รวมลดลง 20% จากปีฐาน (ปีฐาน 2565)

ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ

ความมุ่งมั่น

บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยตระหนักดีว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ ซึ่งทั่วโลกได้ให้ความร่วมมือในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization; CFO) โดยเริ่มดำเนินการในปี 2565 เพื่อทราบถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมของบริษัท พร้อมทั้งติดตามผลการดำเนินกิจกรรมตามมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

การประเมินความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Risk Management and Opportunities)

การประเมินความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อระบุประเภทความเสี่ยงที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่ บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงและโอกาสที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเตรียมแผนปฏิบัติการในการลดผลกระทบดังกล่าว โดยบริษัทฯ ได้มีการประเมินความเสี่ยงทางกายภาพและความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่าน ทั้งระยะสั้น (1-3 ปี) ระยะกลาง (3-10 ปี) และระยะยาว (10 ปีขึ้นไป) การประเมินโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลกระทบต่อรายงานทางการเงิน โดยดำเนินงานของกิจการตามแนวทางของ Task Force on Climate-Related Financial Disclosure (TCFD) และ IFRS S2

การประเมินความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate-related Risk Assessment)

ความเสี่ยงการเปลี่ยนผ่าน Transition Risks

ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ผลกระทบทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น

นโยบายและกฎหมาย

  • การเปลี่ยนแปลงนโยบาย และกฎหมายของหน่วยงานภาครัฐ
  • การเพิ่มมาตรฐานสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ข้อบังคับเกี่ยวกับและการกำกับดูแลสินค้าและบริการที่มีอยู่เดิม
  • ความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพิ่มขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการปฏิบัติตามกฎหมาย เบี้ยประกันที่เพิ่มขึ้น
  • ต้นทุนสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและความต้องการสินค้าและบริการที่ลดลง

เทคโนโลยี Technology

  • การลงทุนในเทคโนโลยีเพื่มขึ้น การค้นคว้า และวิจัย สินค้าและบริการทางเลือกที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ
  • ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ
  • รายจ่ายเพื่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในเทคโนโลยีใหม่และเทคโนโลยีทางเลือก
  • การลงทุนในทรัพย์สินประเภททุนในการพัฒนาเทคโนโลยี
  • ความต้องการสินค้าและบริการที่ลดลง
  • ค่าใช้จ่ายเพื่อการรับ/ปรับใช้วิธีปฏิบัติและกระบวนการใหม่ ๆ

การตลาด Marketing

  • พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค
  • ความไม่แน่นอนในสัญญาณจากตลาด
  • แนวโน้มผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาจส่งผลให้การจัดหาสินค้าและความพร้อมของสินค้าที่ยั่งยืนมีความยากลำบากรวมถึงต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น
  • ความต้องการสินค้าและบริการที่ลดลงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริโภค
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น

ชื่อเสียง (Reputation)

  • ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
  • ความกังวลที่เพิ่มขึ้นของผู้มีส่วนได้เสียและความเห็นเชิงลบจากผู้มีส่วนได้เสีย
  • รายได้ที่ลดลงจากความต้องการสินค้าและบริการที่ลดลง
  • รายได้ที่ลดลงจากผลกระทบเชิงลบต่อการบริหารและวางแผนกำลังคน
  • การลดลงของเงินทุนที่มีพร้อมใช้ เนื่องจากภาพลักษณ์ ชื่อเสียงของบริษัทเชิงลบ

ความเสี่ยงทางกายภาพ Physical Risk

ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ผลกระทบทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น

แบบฉับพลัน

  • พายุไซโคลน และอุทกภัย

แบบเรื้อรัง

  • การเปลี่ยนแปลงในการกระจายของฝนและการแปรปรวนทางสภาพอากาศ
  • อุณหภูมิเฉลี่ยที่เพิ่มสูงขึ้น
  • ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากการหยุดชะงักของบริษัทฯ เนื่องจากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ
  • การลดลงของรายได้ เนื่องจากการหยุดชะงักของการดำเนินธุรกิจ (เช่น การปิดสาขา ปัญหาการขนส่ง การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน)
  • รายได้ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากผลกระทบเชิงลบต่อกำลังคน (เช่น สุขภาพ ความปลอดภัย และอัตราการขาดงาน)
  • ค่าปรับปรุงสาขาที่เสียหายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อใช้ในการป้องกันที่สูงขึ้น
  • ค่าปรับปรุงสำหรับการก่อสร้างสาขาใหม่
  • ค่าใช้จ่ายในการรับมือและบรรเทาอุทกภัยเพิ่มขึ้น
  • เบี้ยประกันที่เพิ่มสูงขึ้นและความเป็นไปได้ที่จะมีการประกันภัยที่น้อยลงสำหรับพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงสูง

แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า

แนวทางการบริหารจัดการ

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน มีการดำเนินกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติเพื่อให้บริการลูกค้า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับผลกระทบจากการดำเนินกิจกรรมที่ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ จึงมุ่งเน้นการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรง (Scope 1) และทางอ้อม (Scope 2) โดยใช้นโยบายการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ เครื่องมือ ยานพาหนะ เป็นประเภทไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และนโยบายการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าจากสายส่ง รวมถึงมาตรการอนุรักษ์พลังงาน โดยลดการใช้ไฟฟ้าซึ่งเป็นแหล่งที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดคือ 58% ของกิจกรรมทั้งหมด

58%
ของกิจกรรมทั้งหมดลดการใช้ไฟฟ้าซึ่งเป็นแหล่งที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุด

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO)

ในปี 2565 บริษัทฯ ได้เริ่มประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร หรือปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง การใช้ไฟฟ้า การจัดการของเสีย และการขนส่ง ซึ่งแสดงผลในรูปของตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (Ton CO2e) โดยได้รับการทวนสอบจาก“บริษัท วีกรีน เคยู จำกัด (V GREEN)” ซึ่งเป็นผู้ทวนสอบการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)

รายละเอียดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ปี 2567

ปริมาณการปล่อย (ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) 2565 2566 2567
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง (Scope 1) 14,529 11,142 14,131
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม จากการใช้พลังงานไฟฟ้า (Scope 2) 33,794 36,998 48,209
ปริมาณรวมที่แสดงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม (Scope 3) 9,911 9,314 11,747
1. Purchased goods and services 881.24 577.73 606.67
2. Capital goods - - -
3. Fuel-and energy-related activities 8,827.56 8,631.15 10,837.75
4. Upstream transportation and distribution 5.86 36.5 5.23
5. Waste generated in operations - - 234.84
6. Business Travel - - -
7. Employee commuting - - -
8. Upstream Leased Assets N/A N/A N/A
9. Downstream transportation and distribution - - -
10. Processing of sold products N/A N/A N/A
11. Use of sold products - - -
12. End-of-life treatment of sold products 152.85 25.32 22.00
13. Downstream Leased Assets 43.29 42.43 39.88
14. Franchises N/A N/A N/A
15. Investments - - -

หมายเหตุ: บริษัทฯ ประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กรโดยใช้ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2567 และได้ผ่านการทวนสอบแล้ว

TGO Guidance of the Carbon Footprint for Organization

การดำเนินการด้านความยั่งยืน